Ironman #2 MarvelNow!
Pg. 1
Russia 1ปีก่อน
Alex: ระวัง Grigor ถือระวังๆ
“ฉันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะเป็นสิ่งที่สุดยอด ฉันถูกสร้างมาเพื่อชัยชนะ”
Alex: เจ้าโง่เอ๊ย!
“แต่สิ่งที่ตามมาหลอกหลอนฉันจนกระทั่งตอนนี้นะหรอ? โอกาสจะแพ้ฉันยังไม่มีเลย”
Alex: ไม่ต้องรีบ เกราะพวกนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อความเร็ว มันแทบจะใช้ประโยชน์ไม่ค่อยได้เลยด้วยซ้ำไป
Arthur: อเล็กซ์ หยุดพูดได้แล้ว นั่นไม่ใช่งานที่นายถูกสร้างมาให้ทำซักหน่อย
Alex: ก็กำลังทำอยู่นี่ไง…
Pg.2
Arthur: นายเคยเป็นนักพูดสุทธรพจน์ในคลาสเรียนสุดท้ายที่ Black Academy แถมยังได้คะแนนสูงสุดในบรรดานักบินด้วยกันเองอีก แถมยังคิดค้นเทคโนโลยีเจ๋งๆที่ว่ากันว่าสิ่งที่แบล็กวิโดว์กับWinter Soldiersทำได้ นายก็ทำได้ แต่ดูตอนนี้สิ สิ่งที่นายกำลังทำแทบไม่ต่างจากคนส่งของเลย
Alex: โรงเรียนนั่นมันเป็นที่ๆฝึกสอนเพื่อการต่อสู้กับ super soldiers ของพวกอเมริกัน ฉันไม่ได้อยากจะเป็นอันธพาลรับจ้าง
Arthur: งั้นก็มาทำงานกับฉันสิ…
Alex: นายไม่ได้ยินที่ฉันพูดเรอะ บอกว่าไม่ได้อยากจะเป็นอันธพาลไง
Arthur: ก็ไม่ได้จะให้เป็นซักหน่อย ฉันอยากให้นายมาเป็นพี่น้องร่วมสาบานมากกว่า สู้ด้วยกันตายด้วยกัน ถ้าสู้ด้วยเหตุผลแบบนี้คงโอเคใช่ไหมละ แบบฮีโร่หนะ แล้วเชื่อเถอะว่านายจะต้องชอบเหล่าผู้คนที่ฉันชวนมาร่วมทีมแน่ๆ
Alex: นายเป็นใครกันแน่?
Arthur: ฉันชื่ออาเธอร์ มาสิอเล็กซ์.. หลังจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับนาย ที่นายยอมอดทนมาตลอด มาเป็นแลนเซอร์ล็อตให้ฉัน แล้วในที่สุด นายก็จะได้ปะทะกับ Ironman สักทียังไงล่ะ….
Pg.3
New York ปัจจุบัน
Pepper: ใส่แว่นกันแดดตอนกลางคืนเนี้ยนะ โทนี่?
A.I.: สะ-หวาดดี ซี- อี-โอว์ เพพเพอร์ พอต์ตซ์ซ์ซ์ … เพื๊อนของโทนี่ .. เจ๊เองก็ส่ายแว่นกานแดดเหมือนกานนะ ฮ่าๆๆๆ!!
Pepper: จาร์วิสดูแปลกๆนะวันนี้
Tony: นี่ไม่ใช่จาร์วิสจ๊ะ พอดีผมกำลังสร้างระบบ A.I. ตัวใหม่ให้มีฟังก์ชั่นมากขึ้นหนะ
A.I.: คุณพอต์ต พอต์ตที่แปลว่าหม้อออ~
Pepper: คุณจะไปตาม Extremis ด้วยระบบ A.I. ตัวใหม่ที่ไม่ค่อยเต็มอย่างนี้อ่ะนะ? โทนี่ ทำไมคุณไม่ให้ S.H.I.E.L.D จัดการละ?
Tony: ผมลองแล้ว แต่มันมีเอกสารยุ่งยากที่ต้องจัดการ กว่าจะเสร็จสถานการณ์จะยิ่งแย่เอา เช่นสมมุติว่ามี Extremis หลุดไป 6 ชุดบนเกาะจำลอง Symkaria นั่นแหละแย่เลย.. ที่นั่นจะมีกลุ่มผู้รับจ้างที่เรียกตัวเองว่า The Circle คอยดูแลอยู่ และพวก Symkaria ก็ชอบพวกมันมาก
Pg.4
Pepper: แล้วยังไงต่อ?
Tony: พวก The Circle ทำให้พวก Symkaria ประทับใจ ซึ่งปกติแล้ว พวกนั้นไม่ใช่คนประเภทที่จะประทับใจอะไรง่ายๆด้วย… อีกอย่าง พวกมันยังมีเพื่อนบ้านเป็นพวก Latveriaอีก แต่เอาจริงพวก latveria ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกนะ ก็กฎหมายแรงงานที่นั่นค่อนข้างจะปรานีซะด้วย ฉันเองก็กำลังคิดจะไปสร้างโรงงานใหม่ที่นั่นอยู่เหมือนกันแหะ..
Pepper: อย่างแม้แต่จะคิดนะโทนี่.. เฮ้อ คุณกำลังจะทำอะไรกันแน่หะ?
Tony: มันคือสิ่งที่ผมต้องทำต่างหากละ ผมไม่สามารถปล่อย Extremis ให้ตกไปอยู่ในมือคนอื่นๆได้อีกแล้ว ไม่งั้น มายาคงจะลุกออกจากหลุมศพออกมาดับเบิ้ลคิกใส่ผมกันพอดี ผมคงต้องแอบสอดแนมเข้าไปและ.. โว๊ว นั่นมันอะไรหนะ…….
(จู่ๆก็มีแสงสปอตไลท์สีแดงส่องไปมา และเริ่มฉายข้อความ)
- โทนี่ สตาร์ก พวกเรา The Circle ขอเชิญชวนแกมาที่ Symkaria … มาเดิมพันกันเพื่อเทคโนโลยีตัวนั้นกัน… –
Tony: ถ้าเป็นปกติผมคงอี๊กับข้อความที่ดูโอ้อวดนั่นไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามันก็ค่อนข้างจะเจ๋งอยู่นะ..
Pg. 5
เกาะ SYMKARIA
(Arthur)- “พวกเราไม่มีแผนการชั่วๆที่จะใช้ Extremis หรอกนะโทนี่ พวกเราก็แค่นักผจญภัยกับนักสู้เหมือนๆกับคุณนั่นแหละ …. อืม…. อาจจะดีกว่านิดหนึ่งนะ”
Arthur: พวกเรารู้ว่าคุณจะต้องมา คุณโทนี่ สตาร์ก.. เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
Tony: ก็ดีนะพวก ฉันกำลังกังวลเรื่องเทคโนโลยีตัวนั้นมากจนขนาดยอมไม่ไปงานนิทัศการเรเนซองค์แฟร์ของปีนี้เลยนะ
Tony: แล้วตกลง extremis อยู่ไหน?
Arthur: เราชอบเรียกมันว่า ‘สิ่งที่เรารอคอยมานาน’ มากกว่า
Tony: นี้ปกติก็ขี้อวดอย่างนี้หรอ
Arthur: ก็คงงั้น คุณก็ควรระวังคนที่ไม่ขี้อวดเอาไว้นะ คนพวกนั้นคือคนที่ไม่มีความเชื่อหนะ
Pg. 6
Tony: สรุปนายคือนักอุดมการณ์ที่ตกลงเจรจากับพวกผู้ร้ายเพื่อที่จะหาของที่พวกมันต้องการมาให้งั้นหรอ
Arthur: ผมกำลังตกลงเจรจากับคุณอยู่ต่างหากล่ะ โทนี่… ระหว่างสิ่งที่คุณต้องการ และสิ่งที่พวกเราต้องการ
Tony: บอกก่อนนะว่าฉันไม่ให้เทคโนโลยี repulsor หรือพวกอาวุธหรอกนะ
Arthur: โอ้ ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราไม่อยากได้อะไรแบบนั้นหรอกนะ เพราะทางเราเองก็มีนักออกแบบอาวุธยุทโธปกรณ์อยู่เหมือนกัน ปกติแล้วเมอร์ลินจะเอาอาวุธที่ถูกใจใส่ลงในลิสต์ให้พวกเราหนะ
Tony: หรือว่าจะเป็น…
Arthur: ไม่ใช่ชุดเกราะหรอก.. เราเองก็มีเกราะในแบบของเรา เพียงแต่มันไม่ได้ดีเท่าของคุณก็เท่านั้นเอง อันที่จริงมันก็ไม่ได้สร้างมาให้เหนือกว่าเกราะของคุณหรอกนะ ก็เพราะชุดเกราะนั้นมันเป็นสัญลักษณ์ของของคุณยังไงล่ะ ไม่ว่าจะยังไงสุดท้ายชุดเกราะของคุณก็เหนือกว่าอยู่ดี
และการแข่งขันกันครั้งนี้จะแสดงให้เห็นสิ่งที่คุณมองข้ามมาตลอด……
Tony: บอกไว้ก่อนนะ อย่างแรกคือถ้ามีใครก็ตามที่นอกเหนือจากฉันโผล่มาในระยะ3เมตรละก็ชุดเกราะของฉันจะบินทิ้งระยะห่างไว้ก่อนไม่ก็เป่ามันให้กระจุย หรือถ้า ระบบA.I.ใหม่ของฉันอารมณ์ไม่ดีละก็ อย่าคิดอะไรแผลงๆเลย.. อย่างที่สองคือ.. แปบนะ นายคืออาเธอร์ ใช่ม่ะ.. ฉันว่านะ ข้ามตอนที่ต้องที่ต้องแข่งขันกันไปมาถึงเรื่องข้อตกลงกันเลยดีกว่า ถึงฉันจะให้พวกอาวุธกับพวกแกไม่ได้ แต่ก็ฉันสามารถให้อย่างอื่นได้นะ
Arthur: อย่าดูถูกพวกเราไปหน่อยเลย พวกเรามีดีกว่าที่คุณประเมินไว้นะ พวกเราก็มีศักดิ์ศรีนะ เพราะว่าต่อให้คุณแพ้ พวกเราก็จะขอแค่สิ่งที่พวกเราต้องการเท่านั้น แน่นอนว่า ironman ผู้ยิ่งใหญ่อย่างคุณคงไม่กลัวคนที่ดูท่าทางเซ่อๆในชุดสูทอย่างผมหรอกนะ
Arthur- “เกิดอะไรขึ้น? เมอร์ลิน?”
Pg.7
Merlin: อาเธอร์หลอกด่าเขาว่าคนโง่อยู่ และดูเหมือน โทนี่ สตาร์กเองก็เหมือนจะตกไปกับดักคำพูดได้ง่ายๆซะด้วย อย่างที่คิดไว้เลย เขาก็แค่ผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเต็มไปด้วยอีโก้ส่วนตัวสูง ที่เขามาก็คงไม่ใช่อะไรนอกจากมาดูลาดเลาพวดเรา ส่วนนาย คุณแลนเซอร์ล็อต.. วันนี้นายต้องจัดการเขาให้ได้นะ ด้วยชุดเกราะของฉัน..อืม บางทียังอาจจะต้องเพิ่มการควบคุมเส้นประสาทอีกสักนิดละมั้ง…
Alex: พอแล้ว ไม่ต้อง ยังไงชุดเกราะก็เชื่อมต่อกับ Extremis ที่สามารถควบคุมเส้นประสาทได้อยู่แล้ว เราไม่ต้องการอะไรที่มันเยอะแยะ เธอก็เว่อร์ซะ
Merlin: ก็มันแหงอยู่แล้ว!! ผู้ชายคนนั้นมันทำลายชีวิตของฉันเลยนะ!!! ตอนฉันอายุ 21 ฉันก็เป็นแค่นักวิทยาศาสตร์ธรรมดาที่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับสตาร์ก จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งฉันได้โอกาสได้ทดลองเกี่ยวกับสนามพลัง แล้วจู่ๆ Ironman ก็โผล่มา ในตอนนั้นฉันยังไม่รู้หรอกว่านั้นคือเขา..ไม่มีใครรู้..
Pg.8
Merlin: ชุดเกราะของเขานั้นได้เจาะระบบความปลอกภัยเข้ามาและได้ทำลายทุกอย่างลง และเมื่อฉันได้รู้เรื่อง ฉันโมโหมากและเดินปรี่ไปหาเขาพร้อมกับพูดว่า นี่มันไม่ใช่การทดลองแล้ว!!สตาร์ก! แต่เขาก็ตอบกลับมาอย่างหน้าไม่อายว่า.. มันเป็นแค่การทดลองภาคสนามของจริงใครมันจะไปสนการทดลองที่ล้มเหลวของฉันกัน …. ฉันกลายเป็นตัวตลก มันเป็นความผิดของเขา
ฉันเหมือนถูกฝังทั้งเป็น ไม่มีใครสนใจผลงานของฉันอีกแล้ว
Alex- “ถ้าฉันแพ้ ฉันอาจจะกลายเป็นแบบเธอก็ได้นะ”
Merlin: อ่ะ เสร็จแล้ว.. นักรบคนสุดท้ายพร้อมลงสนามแล้วล่ะ
Alex-“แต่ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่แพ้เด็ดขาด คนอย่างโทนี่ สตาร์กหนะ …”
Pg.9
Tony: เอาล่ะ สเต็กก็อยู่บนโต๊ะครบแล้วสินะ? ใครจะเริ่มก่อนดี?
Percival(ผู้สวมเกราะextremisสีฟ้า): กาเว็น…
Gawain(เกราะม่วง): วันนี้ฉันจะเป็นไกด์นำทางให้เอง ไปสู่ปลายทางที่เรียกว่า ‘ก้นบึ้งของความเจ็บปวด’ ยังไงละ
Tony: เกราะสวยดีนี่ เมเรดิธ มาได้ไกลเลยนะ
*ps. เมื่อก่อนโทนี่เรียกเมอร์ลิน(Merlin)ว่าเมเรดิธ(Meredith) แต่ภายหลังเธอได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น เมอร์ลิน*
Alex- “จริงๆแล้ว Extremis อาจจะทำให้พวกเราคลุ้มคลั่ง กลายเป็นสัตว์ประหลาดหรือไม่ก็เครื่องจักรสังหารไปแล้ว แต่ด้วยความช่วยเหลือของเมอร์ลินทำให้พวกเรากลายเป็นผู้ควบคุมมันได้”
Pg.10
Alex – “แต่ถ้าเรื่องความสามารถของเกราะเราก็ยังถูกโปรแกมที่เมอร์ลินสร้างกำกับอยู่ดี”
Tony: เฮ้ คอมฯ ปรับเปลี่ยนคลังอาวุธหน่อยสิ ขอแบบที่เหมาะกับการโจมตีศัตรูคนเดียวนะ
Alex – “แต่มันเกี่ยวกับความยืดหยุ่นต่างหากละ”
A.I.: ขอรับครับนายทั่น!!
Tony: เอ้า พร้อมเมื่อไร่ก็เข้ามานะ
Pg.11
Alex- “กาเว็นนั่นมาจากอเมริกากลางผู้มีเทคนิคการต่อสู้ที่ผสมผสานกันไป ส่วนชื่อจริงๆของกาเว็น อาจจะเป็น เวนย์ มั้งเท่าที่รู้ แต่… คนที่ถูกอัพเกรดคนสุดท้ายมักจะเก่งและมีพรสวรรค์มากที่สุดแต่ความสามารถของเกราะจะถูกจำกัดมากกว่าคนอื่นๆนิดหน่อย สตาร์ก นายนี่โชคดีจริงๆที่ไม่ได้เจอ ‘เขา’ เป็นคนแรก”
Alex- “แต่กาเว็นเป็นพวกชอบโชว์ออฟ เขามีความสามารถที่จะดูดพลังที่ปล่อยมาของฝ่ายตรงข้ามมาแล้วปล่อยพลังนั้นในรูปแบบของตัวเองได้ แต่ตัวเขาเองไม่ค่อยสนใจเท่าไร่นอกจากจะโชว์ออฟการต่อสู้ระดับเข็มขัดสายดำของตัวเองเท่านั้น ยิ่งผยองไปซะทุกเรื่อง โอ๊ะ… แต่ศอกสวยนะนั่น..”
Pg.12
Alex- “ปล่อยโอกาสอีกล่ะ”
Gawain: เป็นไงล่ะสตาร์ก ฉันจะนำความเจ็บปวดมาให้แกเอง!
Alex- “ก็อย่าที่บอกไป พวกโชว์ออฟ… จะเข้าไปเตะ ”
Alex- “เพราะความหยิ่งยโสของเขา เขาจึงไม่สนใจการฝึกสอนของฉันเลย เตือนแล้วก็ไม่ฟัง”
(แล้วโทนี่ก็หันมาทันแล้วปล่อยRepulsorใส่กาเว็นกระเด็น)
Alex- “อย่างที่บอกเลยไง….”
Pg.13
Percival: ยินดีด้วยคุณสตาร์ก รอบแรกคุณชนะไป
Tony: โอ้ๆ ฉันรู้ๆ ขอบใจ เอ้าไหนล่ะเจ้า ‘สิ่งที่พวกแกรอคอยมานาน’ นั่น .. (โทนี่ยิงแสงไปเพื่อจะหา Extremis) คราวนี้ก็จ….. (มีโล่กำบังอยู่) เหอๆ อย่างน้อยก็ได้ลอง เกราะrepulsorของเธอเจ๋งดีนะเมอร์ฯ
Percival: เล่นทางลัดอย่างงี้เลยหรอคุณโทนี่ ผมละผิดหวังจริงๆ
Tony: แหงอยู่แล้ว ก็นายมันโง่ไง ชีวิตมันน่าผิดหวังไปซะทุกเรื่องสำหรับพวกคนโง่นั่นแหละ ถึงจะบอกว่าฉันกำลังเล่นเกมกับพวกนาย แต่นี่มันก็ไม่ใช่เกมหรอก!! นายจากพวกนายจะมีไผ่ตายอยู่.. เอ้า! เริ่มการเจาะระบบได้…
Alex- “คนต่อไปก็ต้องเป็นวิลเฮลม์สินะหรืออีกชื่อหนึ่งก็คือกาลาฮาด หมอนั่นเคยเป็นคนอเมริกันอยู่เหมือนกัน ฉลาดและไฮเทค แถมยังสนใจในการฝึกสอนของฉันด้วย”
*p.s วิลเฮลม์ (Wilhelm) คือคนเกราะแดง
Pg.14
Alex- “คราวนี้จะได้เป็นการต่อสู้ที่นานขึ้นหน่อย .. ตอนนี้สตาร์กเองก็ได้รับรู้ถึงความสามารถของเกราะนักรบของเมอร์ลินขึ้นมานิดหนึ่งแล้วสินะ ทั้งการโจมตีและการรับการโจมตีไปจนถึงปฏิกริยาการตอบรับ แต่มันก็ไม่ได้เป็นการโจมตีที่คาดเดาได้ง่ายๆหรอกนะ เพราะว่าการดูดรับพลังงานมาแล้วจะปล่อยออกไปยังไงนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ในเกราะเป็นผู้ควบคุม.. อู้ว กันสิ!! แล้วปัดออก ”
Percival: ก็ต้องยอมรับนิดหนึ่งนะว่ากาลาฮาดทำได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้
Alex: พวกเรากำลังโดนเล่นงานอยู่นะ…
Merlin: จริงๆด้วย.. สตาร์กกำลังแฮ็กระบบการป้องกันของโล่repulsorอยู่ ฮืมม~ แต่มันคงไม่ได้ผลหรอกนะ ก็ฉันอุส่าห์ใช้เวลาเป็นปีเพื่อที่จะสร้างระบบความปลอกภัยที่เพอร์เฟ็กที่สุดนี่นา
Pg.15
Tony: โอเค เมเรดิธ ฉันต้องยอมรับว่าระบบความปลอดภัยของเธอพัฒนาขึ้นมาก แต่พวกชุดเกราะการดีไซน์ของเธอยังห่วยอยู่นะ
Percival: นี่!…
Alex: ใจเย็นๆ เพอซิวอล
Alex- “เขามีความสามารถมากกว่าใครๆก็จริง แต่เขาเองยังหนุ่มพอที่จะถูกกวนประสาทได้ง่ายๆ นั่นคงทำให้เขาสู้ได้ลำบากแน่”
Tony: (หันไปออกคำสั่งกับระบบ A.I.) เปลี่ยนจากการแฮ็กระบบมาเป็นพลังงาน แล้วก็เปลี่ยนจาก repulsorข้างซ้ายมาป็น เลเซอร์A.U.V… เอาล่ะ ใครต่อดี? นายชื่ออะไร?
Alex: แลนเซอร์ล็อต
Tony: ที่ใช้ชื่อนั้นเพราะนายเก่งที่สุดใช่ป่ะ? หรือไปอะจี๊ยๆกับศรีภรรยาของเจ้านายลับหลังแล้วได้มา?
Pg.16
Alex- “ในปี 1968 มีชายคนหนึ่งชื่อฟอสบูรี่ จู่ๆเขาก็เดินไปปรากฎตัวที่สนามโอลิมปิก…..”
Tony: คราวนี้จะมาแบบไหนละ? มวยไทยแบบไอตัวแรกหรอ?
Alex: ฉันมีมากกว่านั้นนะ
Alex-“ชายคนนั้นเป็นนักกีฬาที่กระโดดสูงมาก ในแบบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน คำถามคือ เขาทำได้อย่างไร? มันดูแปลกเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ… คนพวกนั้นเลยหัวเราะเยาะเขา.. แต่เขาก็ชนะการแข่งขัน”
Alex: จะมาก็เข้ามา..
Tony: จัดไปเลยครับพี่
Alex- “หลังจากนั้น ก็มีนักกีฬาน้อยลงๆที่ใช้เทคนิคแบบเก่าๆ พวกเขาเริ่มฝึกฝนและเริ่มทำแบบชายคนนั้นได้ พูดง่ายๆก็คือ บางทีก็ต้องมีคนบางคนเริ่มทำอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากคนอื่นก่อน”
Pg.17
Alex- “บางที ‘คนๆนั้น’ ก็ต้องเป็นคุณก่อน … ฉันได้ฝึกเหล่าพวก The Circle มานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้สอนไปซะทุกอย่างหรอกนะ บางทีอะไรๆก็ยังไม่พร้อม”
Alex- “เทคนิคของฉันคือการควมคุมทรัสเตอร์ของชุดเกราะ คือ…ศิลปะป้องกันตัวอย่างเตะ มันก็ดีอยู่หรอก แค่มันไม่มีอะไรใหม่ๆ เข่าหรอ? ถ้าคุณสามารถผสมผสานมันเข้ากับทรัสเตอร์กับความแข็งแกร่งของเกราะได้ล่ะก็ ค่อยน่าสนใจขึ้นหน่อย”
Ps. ทรัสเตอร์ คือ พลังงานที่ปล่อยออกจากถุงมือและเท้าที่ทำให้เกราะและผู้สวมใส่บินได้
Pg.18
Alex- “ถึงเมอร์ลินกำลังพัฒนาทรัสเตอร์รุ่นสองอยู่ก็เถอะ แต่แค่เทคโนโลยี G-force ของ Extremis บวกกับไมโครทรัสเตอร์และการฝึกฝนยิมนาสติกอีกนิดหน่อย แค่นี้สตาร์กก็ยิงไม่โดนแล้วแหละมั้ง”
Alex- “แล้วอีกอย่าง จะต่อยไปทำไม ในเมื่อถ้าใส่ศอกบวกกับทรัสเตอร์ที่ถุงมือแล้วได้ผลกว่าเยอะ”
Alex- บราโว้~!!
Pg.19
Alex- “ระบบของฉันเห็นจุดอ่อนของเขาเต็มไปหมดเลย มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า … จะว่าไป เขายังไม่ได้ใช้ repulsor ข้างซ้ายเลย …โอ๊ะ นั่นไม่ใช่ repuls…!”
Precival: เมอร์ลิน เรื่องextremis!
(แล้วโทนี่ก็ยิงเลเซอร์ A.U.Vใส่)
Tony: ใช้สนามพลังงั้นหรอ? น่ารักดีนะ แต่นั่นก็เป็นการเปิดโอกาสให้เลเซอร์ทุกชนิด โดยเฉพาะแสงที่มีความเข้มข้นสูงอย่าง x-ray! แทนที่จะเอาเวลามาใส่ใจกับระบบความปลอดภัยสุดเพอร์เฟ็กนั่นมาใส่ใจกับระบบป้องกันของเกราะดีกว่านะ
Merlin: โถ่เว้ย!!! ไม่นะ!!!
Pg.20
Percival (หรือก็คือArthur นั่นเอง): แต่ว่านายยังไม่ได้ตอบตกลงเรื่องการเดิมพันเลยนะ!!!!!!
Tony: ไปเจอกันได้ที่ศาล .. ศาลเมกันนะเออ แล้วฉันจะหาทางเอาเรื่องแกที่ฆ่ามายา แฮนเซนไป… อ่อ ฉันก็ไม่เคยบอกว่าฉันเป็นสุภาพบุรุษนินะ
Arthur: เราไม่สามารถผลิตนักรบได้อีกแล้ว!
Merlin: จริง.. ถ้าเป็นเกราะแบบทั้งตัวหนะไม่ได้แล้วล่ะ แต่ถ้าลดหน้าที่ของผู้ควบคุมเกราะลงแล้วหันมาพัฒนาเกราะช่วงแขนละก็ ไม่เห็นต้องพึ่ง extremis ก็จะต้องแข็งแกร่งได้แน่ๆ!!
Arthur: หยุดสร้างได้แล้ว เมอร์ลิน!!!! เราแพ้แล้ว!!
Alex- “ใช่ เราอาจจะแพ้แล้ว…. แต่ฉันหน่ะยัง…………’
TBC ,,
Ps. ฝ่ายของอาเธอร์มี 2 ชื่อค่ะคือชื่อจริงๆของตัวเอง และชื่อในองค์กร เช่น เมเรดิธ(ชื่อจริง) เป็น เมอร์ลิน(ชื่อในองค์กร) เวนย์ เป็นกาเว็น กาลาฮาด เป็นวิลเฮล์ม อาเธอร์ เป็น เพอซิวอล อเล็กซ์ เป็น แลนเซอร์ล็อต (ชื่อทีมthe circle มาจากโต้ะกลม และชื่ออัศวินต่างๆของKing Arthur)