Spider-Man นั้นเป็น Comic ที่ขายดีที่สุดของ Marvel และมีการสร้างซีรีส์และอนิเมชันออกมามากมายแต่ไม่ได้มีการสร้างเป็นภาพยนตร์แต่อย่างใด จนกระทั่งเข้ายุค 2000 ดังนั้นเรามาย้อนดูประวัติศาสตร์การดีลลิขสิทธิ์ของ Spider-Man กันเถอะ!
1985 กับบริษัท Cannon ที่ก็ยังไม่ได้สร้าง
Cannon Group นั้นผลิตผลงานภาพยนตร์มาตั้งแต่ยุค 60 ทั้งภาพยนตร์ดราม่า แอคชั่น ทริลเลอร์ พวกเขาทำมาหมดแล้วในช่วง 1980 ภาพยนตร์ชุด Superman ประสบความสำเร็จ และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโรยุคแรกๆที่เข้าถึงคนหมู่มาก แต่มาเสียเอาภาค 3 ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่า 2 ภาคแรก ส่งผลให้การซื้อขายของ Marvel และ Cannon Group ในส่วนของลิขสิทธิ์การทำภาพยนตร์ Spider-Man นั้นมีราคาเพียงแค่ 225,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่มาร์เวลยังจะได้ส่วนแบางรายได้หนัง พร้อมพ่วงจำกัดเวลา 5 ปี ถ้าหากหนังไม่ได้สร้าง ลิขสิทธิ์จะหวนกลับมาอยู่ในมือมาร์เวล
ในระหว่างนี้ประธาน Canon Group Menahem Golan ได้ออกจากบริษัทย้ายไปอยู่กับ 21st Century Film และได้นำลิขสิทธิ์หลายตัวไปกับเขาด้วย เขาได้ยืดสัญญากับ Marvel ออกไปถึงปี 1992
1991 กับ Carolco กับ Spider-Man ของ James Cameron
Carolco นั้นเป็นบริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ที่โด่งดังด้วย First Blood และตัวละครหลักในเรื่องอย่าง John Rambo (จอห์น แรมโบ) และ Rambo: First Blood Part II ที่จะได้ James Cameron เข้ามาร่วมด้วย หลังจากนั้น Cameron ก็จะวนเวียนอยู่ใกล้กับ Carolco จนหลังจากเสร็จงาน True Lies เขาก็ได้มาร่วมแจมกับ Carolco เขียนบทภาพยนตร์ Spider-Man และพร้อมขึ้นแท่นกำกับ Carolco นั้นได้ลิขสิทธิ์ต่อมาจาก Golan และ 21st Century Film อีกทีหนึ่ง
1998 Marvel ฟื้นจากความตาย
ในช่วงปี 1996 Marvel ล้มละลาย แต่ก็กลับมาจากการเข้าซื้อของบริษัทของเล่น Toybiz โดยได้เริ่มออกหัว Marvel Knights และจักรวาลใหม่อีกหลายจักรวาลในปี 1998 ซึ่งในปีเดียวกันนี้ศาลก็ได้ตัดสินให้สัญญาลิขสิทธิ์ฝั่ง 21st Century Film นั้นหมดอายุ และส่งคืนสไปดี้กลับบ้านโดยที่ยังไม่มีการสร้างภาพยนตร์ใดๆ
1998 ขายให้ Columbia Pictures
ถึงแม้ว่า 21st Century Film จะยังไม่ยอมฟังศาลเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ Marvel ก็ขายไปให้ Columbia Pictures ที่อยู่ใต้ Sony เรียบร้อยแล้ว โดยMarvel ได้ส่วนแบ่งจากภาพยนตร์ 5% และ 50 % จากการขายของต่างๆ
Sony กับสไปดี้ที่ทุกคนรู้จัก
หลังจากที่ได้ไปอยู่ใต้ชายคา Sony ก็เป็นครั้งแรกที่ Spider-Man ได้ถูกผลิตออกมาเป็นภาพยนตร์จอยักษ์และได้ Sam Raimi ผู้กำกับหน้าใหม่มากำกับรวมถึงยังได้ Toby Mcguire สไปดี้ในหัวใจของใครหลายๆคนมาแสดงนำ ไตรภาค Spider-Man นี้เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของโลกภาพยนตร์และประสบความสำเร็จจนเกือบจะมีภาค 4 น่าเสียดายที่ Sam Raimi และ Sony คุยกันไม่ลงตัว
5% กับ 50 %
ในปี 2011 โซนี่แลก 5% จากภาพยนตร์คืนจากมาร์เวล และขายสิทธิ์การขายของเล่นและสินค้าต่างๆทั้งหมดคืนให้
ซึ่งในปี 2004 ทำรายได้ใน US ไปประมาณเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (แต่ในปี 2014 มันลดลงเหลือ 200 ล้านสหรัฐ)
500 Days of Gwen
5 ปีหลังจาก Spider-Man 3 การรีบูทก็มาถึงพร้อมกับผู้กำกับหนังรักอกหักปังดังก้องโลกอย่าง 500 Days of Summer
Marc Webb เข้ามาคุมโปรเจคท์ The Amazing Spider-Man พร้อมกับได้ Andrew Garfield มารับบทเป็น Peter Parker/Spider-Man และ Emma Stone มาเป็น Gwen Stacey นางเอกแทน MJ จากไตรภาคที่แล้ว ในภาคแรกตัวหนังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากความสดใหม่และเนื้อเรื่องที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ของพระนางที่ทำออกมาได้ดีมากๆ
แต่หนังกลับไปได้ไม่ดีเท่าไหร่กับภาคต่อ ถึงแม่จะมีโปรเจคต่อแต่ก็ถูกยุบไปอยู่ดี
สไปดี้กลับบ้าน
หลังจากโดนแฮ็คเพราะไปล้อท่านผู้นำ Sony ก็ถูกเผยความลับว่ากำลังตกลงกับ Marvel ในการนำสไปเดอร์แมนเข้ามาในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล หรือ Marvel Cinematic Universe ซึ่งก็ตามที่ทุกคนเห็นกันอยู่คือ Peter Parker อยู่กับเรามาตั้งแต่ Iron Man 2 และได้ Tom Holland มารับบทในสัญญาหนังเดี่ยว 3 เรื่องและ หนังรวม 3 เรื่องซึ่ง ณ ทีเขียนตอนนี้คือเหลือหนังเดี่ยวเพียงเรื่องเดียว ส่วนทั้งสองค่ายนั้น Marvel จะได้สิทธิ์นำสไปดี้ทอม ฮอลแลนด์นี้ไปใช้ในจักรวาล ส่วน Sony ก็จะได้เงินจากหนังเดี่ยวพร้อมกับคำแนะนำในฐานะ Creative Lead ของ Marvel