จะเกิดอะไรขึ้นถ้าด็อคอ็อคและปีเตอร์สลับร่างกัน!
หมอผู้ชาย : เขาไม่ไหวแล้วนะ
หมอลิต้า : ไม่ ไม่มีทาง ช็อคเขาอีกที
หมอลิต้า : ดูชีพจรเข้าสิ
หมอผู้ชาย2 : พอแล้วลิต้า เขามีค่าให้คุณช่วยชีวิตรึไงกัน นี่ด็อคอ็อคนะ เขาเป็นคนที่ควรจะถูกเช็ดล้างออกไปจากโลกนี้ได้แล้ว
หมอลิต้า : จรรยาบรรณแพทย์น่ะลืมแล้วรึไง เราต้องช่วยชีวิตทุกคนไม่ว่าเขาจะเป็นใคร
หมอผู้ช้าย 2 : งั้นก็…ดี เพราะเขารอดแล้ว
เราช่วยเขาไว้
ลิต้าจ้องด็อคอ็อคอยู่พักหนึ่งก่อนจะถ่มน้ำลายใส่…โดยไม่รู้ว่านั้นคือไม่ใช่ด็อคอ็อค…
“สวัสดี ผม ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ และผมจนปัญญาจริงๆที่จะออกไปจากไอ้ที่บ้าๆแห่งนี้”
“ที่นั้นคือ ร่างที่ใกล้สิ้นลมของศัตรูคู่อาฆาต”
“ที่ๆผมอยู่นี่ มันอยู่ในคุก ในเกาะแห่งหนึ่ง อยู่ใต้ดิน ใต้พื้นน้ำ มีระบบรักษาความปอดภัย และรอบข้างด้วยศัตรูตัวร้ายหน้าเก่าๆของผม”
“แต่ ทำไงล่ะ…”
“แกทำยังไงกันนะด็อค ทำไมฉันถึงกลายเป็นแบบนี้ แกทำบ้าอะไรกับฉัน!“
ด็อคอ็อค(ในร่างปีเตอร์ ต่อจากนี้จะเรียกว่าด็อคอ็อคละกันนะครับ) : ตอนนี้ ฉันคือปีเตอร์ พาร์กเกอร์ และฉันมีความทรงจำทุกอย่างของแก มันเต็มอยู่ในนี้ ในสมองนี่ ฉันรู้ทุกอย่างที่แกสั่งสมมา ฉันครอบครองชีวิตและทุกอย่างที่แกมี แต่แก แกคืออ็อตโต้ อ็อตเตเวียส แกเหลือเวลาหายใจนับนาทีได้เลยมั้ง
ด็อคอ็อค : แกจงอยู่ในร่างเส็งเคร็งที่เหมือนกับเครื่องจักรนั้นไปเถอะ ฉันจะไม่บอกความลับให้แกรู้หรอกนะ แกจะต้องตายทั้งๆที่แกไม่รู้อะไรเลย แกจะไม่มีวันได้รู้ทริ๊คสุดท้ายของฉันว่าฉันเอาแกไปอยู่ในนั้นได้ยังไง
“โอ้ว พระเจ้า มีอะไรแย่กว่าการที่กำลังจะตายอีกมั้ยนะ เขาออกไปจากที่นี่ เขาออกไปโดยมีใบหน้า ความรู้ พลังของฉันออกไปด้วย”
นอกจากความสันพันธ์ในการเป็นศัตรูกันมาอย่างยาวนานแล้วรู้ไหม Dr Ock ยังเคยเกือบเป็นลุงของปีเตอร์ด้วย เรื่องมาจากการที่ป้าเมย์ได้แบ่งห้องในบ้านให้เช่า และผู้ที่ย้ายเข้ามาก็คือ Otto Octavius หรือ Doctor Octpusนะเอง ถือเป็นความบังเอิญที่ซวยมากๆของปีเตอร์ผู้ที่รู้ว่าจริงๆผู้เช่านั้นเป็นผู้ร้ายแต่ไม่สามารถบอกใครได้ ไม่งั้นการที่เขาเป็นสไปดี้จะถูกเปิดเผย ที่แย่กว่านั้นป้าเมย์ก็ดันไปชอบOttoซึ่งปากหวานต่อหน้าป้าแกจนถึงจะแต่งงานกัน (ตอนนั้นป้าเมย์ยังเกลียดสไปดี้เพราะเชื่อนสพ Daily Bugle) แต่ในที่สุดการแต่งก็ถูกยกเลิกเมื่อแก้งค์ของHammerheadที่เคยมีเรื่องกับ Dr ockใช้โอกาสงานแต่งเข้ามาโจมตีและสไปดี้ได้มาช่วยป้าเมย์ไว้ ใครจะรู้ว่าเหตุการ์ณนี้ทำให้เกิดเรื่องที่น่าตกใจที่สุดใน amazing spider-man #699 ผมอ่านแล้วเกือบ
เป็นไปได้ไหมที่ การสลับตัวของ Spider-man กับ
อย่าลืมมาเยี่ยมมาคุยกันบนเฟสบุ้คของเรานะครับ ตอนนี้กำลังออกความคิดเห็นกันสนุกเลยว่าใครจะเป็น Superior Spider-man https://www.facebook.com/marvelfanpageth
ตอนนี้ขอเล่าแบบย่อสุดๆเพราะอยากให้ไปอ่านกันเองเพราะคนเขียนปูเรื่องดีมาก
เดอะ ราฟท์ คุกสำหรับอาชญากรที่มีพลังพิเศษ
*สัญญานฉุกเฉินกำลังดัง
สัญญานดังมาจากห้องขังของด็อคเตอร์ อ็อคโตปุส ผู้ที่อยู่ในโคม่ามาจนถึงวันนี้และเขาพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง
หนสุดท้ายที่เขามีการสื่อสารใดๆทั้งสิ้นเขาได้ครองระบบการสื่อสารในโลกไปครึ่งหนึ่ง(Spider-man: ends of the earth)
ทุกคนจึงระวังเป็นที่สุด แต่เจ้าหน้าก็พยายามฟังว่าเขาพูดอะไร…
ขณะเดียวกันนั้นหนึ่งในเครื่องจักรของด็อคอ็อคก็กำลังเขไปในแมนฮัตตันเพื่อหา ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์
Richard กับ Mary พ่อและแม่ของปีเตอร์ในจักรวาลหลักเคยทำงานให้ Nick Furyมาก่อนและยังเคยเจอWolverineอีกด้วย แต่ประวัตินี้ไม่ได้มีการพูดถึงบ่อยนัก คงเป็นเพราะมาร์เวลคิดว่าการที่ให้ประวัติของเขาเลือนลาง เพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนกับปีเตอร์ผู้ที่จำพ่อแม่เขาได้แค่ลางๆเหมือนกัน
Electro - Max Dillon เป็นวิศวะไฟฟ้าและพนักงานซ่อมแซม เมื่อฟ้าผ่าใส่เขาในขณะที่กำลังซ่อมสายไฟ้า เซลร่างกายเขาได้กลายพันธุไปจนเป็นประจุไฟฟ้ามีชีวิต และแม็กนีโต้ยังพยายามชวนเขาเข้าbrotherhood of evil mutantsด้วยและบอกว่าหากมีคนสอนการใช้พลังที่ถูกต้อง Electroจะน่ากลัวพอกับแม็กนีโต้เองเลย หลังจากได้พลังมาไม่นานElectroก็ไปบุกเข้าไปในออฟฟิศของนสพ Daily Bugle และปล้น J Jonah Jamesons ผู้ที่เชื่อว่า Electroเป็นสไปเดอร์แมนปลอมตัวมาแก้แค้นเขา จนทำให้สไปเดอร์แมนต้องตามจับอีเล็กโตรเพื่อที่จะเคลียร์ตัวเองจากข้อกล่าวหาเหล่านั้น Electroนั่นเป็นหนึ่งในศัตรูหลักของสไปเดอร์แมน ทั้งเดี่ยว และอยู่ในทีม Frightful Fours และ Sinister
ในวงการหนังสือแล้วไม่มีผู้สร้างคนใดมีชื่อเสียงดังเท่ากับStan Leeอีกแล้ว เขาเป็นผู้ร่วมสร้างตัวละครหลักๆของมาร์เวลทั้ง Spider-man, Hulk, Iron man, X-men และอื่น จะเรียกเขาว่าเป็นบิดาแห่งวงการคอมิคก็ไม่ผิด Stanley Martin Lieber เกิดในปี1922 ในครอบครัวชาวยิวที่เมืองNew York เขามีน้องชายชื่อ Larry Lieber ครอบครัวมีฐานะไม่ค่อยดีเท่าไร พอเขาอายุ17 เขาได้เข้าทำงานกับMartin Goodman(ผู้ที่เป็นสามีของญาติเขา) ในช่วงแรกๆเขาเป็นเด็กลูกจ้อกตามออฟฟิศ คอยเติมหมึก กระดาษต่างให้กับศิลปิน จนในที่สุดJoe Simon บกของTimelyและผู้สร้างกัปตันอเมริกาได้จ้างเขาเป็นพนักงานประจำ งานแรกที่เขาได้ทำในอาชีพนักเขียนคือการเขียนเรื่องสั้นแบบไม่มีภาพให้กัปตันอเมริกา(ในเรื่องนี้เขาได้เขียนให้กัปตันปาโล่หนแรก)